เป็นสวนที่สวยดีเนอะ
พอฝนตกก็เหมือนว่าพวกต้นไม้ดอกไม้ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาเลย

ใช่ไหมล่ะ? ดวงอาทิตย์ก็ออกมาแล้วด้วย
จากนี้ก็จะยิ่งมีชีวิตชีวามากขึ้นไปอีกเลยนะ

จริงด้วยนะคะ ภาพทิวทัศน์แบบนี้
มีให้เห็นแค่ในฤดูนี้เท่านั้นสินะคะ

เหมือนภาพในจินตนาการเลยเนอะ

อุตส่าห์รู้จักที่แบบนี้ด้วยนะ

ก่อนหน้านี้เจอเข้าโดยบังเอิญน่ะค่ะ

ภาพของไฮเดรนเยียที่ปกคลุมไปทั่วทั้งสวน
ที่ได้เห็นในตอนนั้นน่ะ สวยมากๆ เลยค่ะ…
ตั้งแต่นั้นมาที่นี่ก็กลายเป็นสถานที่โปรดของฉันเลย

ก็จริงอยู่ที่มีดอกไม้บานอยู่เต็มไปหมด
แต่ไม่ถึงขนาดที่ปกคลุมไปทั่วทั้งสวนเลยนะ…?

อ๊ะ ขอโทษทีนะ
ต้องเข้าไปด้านในลึกกว่านี้อีกหน่อยน่ะ

ตรงนี้ก็มีดอกไม้บานอยู่เยอะแล้ว
แต่ยังมีจุดที่บานมากกว่านี้อีกสินะคะ

อย่างนั้นเองสินะ อยากเห็นเร็วๆ จัง!

คิกๆ ตั้งตารอได้เลยนะ

อ้าว? รูบี้จัง ทำอะไรอยู่เหรอ?

อ๊ะ กำลังดูหอยทากอยู่น่ะ

หอยทากก็เป็นสัญลักษณ์ของฤดูฝนเหมือนกันเนอะคะ

นี่ หอยทากมีอีกชื่อว่าเด็งเด็งมูชิสินะ
คำว่า “เด็งเด็ง” หมายความว่าอะไรเหรอ?

เอ๊ะ…แปลว่าอะไรกันนะ?
ไม่เคยคิดถึงเรื่องนั้นมาก่อนเลย…

มาจากรูปร่างกลมๆ คล้ายกลองเด็งเด็งไดโกะหรือเปล่า?

โอ้! สมแล้วที่เป็นเอริจัง!

ก็แค่พูดสิ่งที่นึกขึ้นมาได้เท่านั้นเอง
ไม่ได้แปลว่าถูกหรอกนะ

มีทฤษฎีที่ว่ามาจากการทักทายหอยทากที่ซ่อนตัวอยู่ในเปลือกหอย
แล้วมันก็ “เอาหัวออกมา” น่ะค่ะ…

เอ๊ะ? แล้วทำไมถึงกลายเป็น “เด็งเด็ง” ล่ะ?

เพราะตอน “เอาหัวออกมา” มันเหมือนจะพูดว่า
“เดะโยเดะโย” ที่แปลว่า “ออกมาแล้วๆ”
แล้วก็เพี้ยนจนกลายเป็น “เด็งเด็ง” ไปน่ะค่ะ

“เดะโยเดะโย” กลายเป็น “เด็งเด็ง” เหรอ…
รู้สึกว่ามันไม่น่าใช่ยังไงไม่รู้สิ

เอาน่า มันก็คงเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลานั่นแหละ

แต่มันก็เป็นเพียงทฤษฎีเท่านั้น
ถ้าหากผิดพลาดไปต้องขออภัยด้วยค่ะ

ไม่หรอก ขอบคุณที่อธิบายนะ ชิโอริโกะจัง

รูบี้จังเนี่ย ให้ความรู้สึกว่าน่าจะไม่ถูกกับแมลง
แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่สินะ

ก็ไม่ค่อยถูกด้วยเท่าไหร่หรอก แต่เพราะหอยทากน่ารักนี่นา